เชิญเข้าชมเว๊บบล็อก hana ของน้องมณ (มณฑาทิพย์ แสงอินทร์) hana แปลว่า ดอกไม้ จึงขอนำสู่โลกแห่งดอกไม้และความงดงามของธรรมชาติ

วันเสาร์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ของดีที่เมืองไทย

            “ซากุระเมืองไทย”

          นาง พญาเสือโคร่งได้รับการขนานนามว่า “ซากุระเมืองไทย” เพราะพรรณไม้ท้องถิ่นอันงดงามชนิดนี้ของประเทศไทย จัดอยู่ในวงศ์เดียวกับดอกซากุระของประเทศญี่ปุ่น คือ วงศ์กุหลาบ (Rosaceae) โดยนางพญาเสือโคร่งอยู่ในสกุล Prunus เช่นเดียวกับต้นเชอรี่ แอปริคอต พลัม แอปเปิลท้อ และสาลี่ ซึ่งเป็นพรรณไม้ที่ขอบอากาศหนาวเย็น นางพญาเสือโคร่ง (Prunus cerasoides) เป็นไม้ต้นผลัดใบที่พบขึ้นอยู่ตามธรรมชาติไหล่เขาหรือบนสันเขาบริเวณเหนือ ระดับน้ำทะเลปานกลาง ตั้งแต่ระดับ 1,000 เมตรขึ้นไป สภาพเป็นป่าดิบเขา อย่างเช่นบนดอยเชียงดาว และดอยอินทนนท์จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะบริเวณสันเขาของดอยแม่สลอง จังหวัดเชียงรายมีตนนางพญาเสือโคร่งขึ้นอยู่หนาแน่น ยามผลิดอกพร้อมกันจะงดงามราวสวรรค์ ลักษณะพืชชนิดนี้เป็นไม้ยืนต้นขนาดกลาง สูงประมาณ 10 เมตร แตกกิ่งก้านเป็นพุ่มโปร่ง เปลือกต้นเป็นมัน สีน้ำตาลอมแดงมีรูอากาศขนาดใหญ่และเปลือกมักลอกหลุดออกเป็นแถบ ใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่ ขอบหยัก ก่อนฤดูออกดอกคือราวเดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์มันจะทิ้งใบเหลือแต่กิ่งโล่งๆ ก่อนผลิดอกออกเต็มต้น โดยดอกมีขนาด 1-2.5 ซ.ม. ออกเป็นช่อกระจุกตามปลายกิ่ง แต่ละดอกมีกลีบบอบบาง 5 กลีบ ดอกนางพญาเสือโคร่งมีหลายเฉดสี ทั้งขาว ชมพูสด และแดง แต่ที่หายากที่สุดคือสีขาว เมื่อดอกได้รับการผสมจะติดผลรูปไข่ขนาดประมาณ 1-1.5 ซ.ม. ผลสุกเป็นสีแดงแบบลูกเชอรี่ รสเปรี้ยว สามารพรับประทานได้

วันศุกร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

ภาพประดิษฐ์ตัวอักษรหัวเรื่อง


ภาพแรกที่ทำ เส้นอาจไม่สวย แต่ตั้งใจระบายสีมาก ๆ เลยค่ะ


ภาพที่ 2 ใหญ่เต็มหน้ากระดาษ ต้องถ่ายภาพ จึงไม่ชัดนัก

ภาพที่ 3 ระบายสีปิดรอยขาวมากไปหน่อย เส้นสีดูไม่สวยเท่าไร


ภาพสุดท้ายที่ทำ กำลังหิวมาก เติมพลังสักถ้วยแล้วกัน


วันอังคารที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

สิ่งที่อย่ากให้รู้(ดูแล้วจำ)

เรื่องน่ารู้(คู่คนน่ารัก)

มณฑาทิพย์

ลักษณะทั่วไปมณฑา 

มณฑาเป็นพรรณไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ลักษณะเป็นพุ่มผิวเปลือกลำต้นเรียบสีเทา ลำต้นมีความสูงประมาณ4-10 เมตร ลำต้นแตกกิ่งก้านสาขาน้อยใบมีขนาดใหญ่มีสีเขียว ลักษณะใบเป็นรูปมนรี ขอบใบขนานตัวใบเป็นคลื่นเล็กน้อย ขนาดใบกว้างประมาณ 4-6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 6-9 เซนติเมตร ดอกแตกออกตามง่ามใบ หรือส่วนยอดของลำต้น กลีบดอกแข็งหนา ีกลีบดอก 3 กลีบ ซ้อนกันเป็นชั้น ลักษณะคล้ายกับดอกลำดวน ดอกเล้กสีเหลืองมีกลิ่นหอมไปไกล

การเป็นมงคลมณฑา

คนไทยโบราณเชื่อว่าบ้านใดปลูกต้นมณฑาไว้ประจำบ้านจะทำให้มีความศักดิ์สิทธิ์เพราะดอกมณฑาเป็นดอกไม้ทิพย์ที่ อยู่บนสวรรค์และได้บันดาลตกลงมาสู่โลกมนุษย์นอกจากนี้ยังมีความเชื่ออีกว่าบ้านใดปลูกต้นมณฑาไว้ประจำบ้านจะทำให้เกิดความงดงาม ชวนมอง เพราะดอกมณฑาเวลาบานนั้น ดอกมีสีเหลืองนวล หอมได้นานดูแล้วงามแพรวพราวจับใจซึ่งมีลักษณะพิเศษเหมือนกับดอกมณฑาทิพย์

เกิดวันอาทิตย์


ต้นไม้ประจำวันเกิด เป็นต้นพวงแสด ต้นพุทธรักษา ต้นธรรมรักษา และต้นเยอร์บีร่าที่มีดอกสีส้ม
ส่วนดอกไม้ประจำวันเกิด เป็นดอกกุหลาบสีส้ม จะถูกโฉลกกับคนที่เกิดวันอาทิตย์
คน เกิดวันนี้มีนิสัยทะเยอทะยานและกระตือรือล้น คุณและดอกไม้มีความหมายถึงความฝันอันยิ่งใหญ่ ดอกไม้อีกชนิดสำหรับผู้เกิดวันนี้คือ ดอกทานตะวัน อันเป็นสัญลักษณ์คู่กับพระอาทิตย์เสมอ บอกถึงตัวคุณที่เชื่อมั่น หัวสูง ถือตัว และหยิ่งในศักดิ์ศรีด้วย
เกิดวันจันทร์
 

ต้นไม้ประจำวันเกิดคือ ต้นมะลิ ต้นแก้ว ต้นพุด ต้นจำปี ปลูกแล้วออกดอกหอม จะโชคดี
ดอกไม้ ประจำวันเกิด คือดอกมะลิขาวสะอาด หมายถึงตัวคุณที่มีความนุ่มนวลอ่อนโยน เรียบร้อย ส่วนดอกไม้อีกชิดคือ ดอกกุหลาบขาว หมายถึงความรักที่อ่อนโยนและไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทนเพราะคนวันจันทร์มักอ่อน ไหวง่าย โรแมนติก และช่างฝัน

เกิดวันอังคาร


ต้นไม้ ที่แสนดีของคุณคือ ต้นชัยพฤกษ์ ต้นชมพูพันธุ์ทิพย์ ต้นยี่โถ ออกดอกสีชมพู ต้นเข็มออกดอกสีชมพู ถ้าต้นไม้ของคุณออกดอกมากๆ บอกได้ว่าเธอกำลังมีความสุข
ดอกไม้ ประจำวันเกิดของคุณคือ ดอกกล้วยไม้ โดยเฉพาะที่ออกดอกสีชมพู เพราะมีความหมายถึงความรักที่ร้อนรุ่ม หวือหวา วูบวาบตามอารมณ์ของคนที่เกิดวันนี้
เกิดวันพุธ


ต้นไม้ ประจำตัวคนที่เกิดวันพุธนั้นพิเศษกว่าคนอื่นตรงที่เป็นต้นไม้ใบเขียว โดยเฉพาะต้นกระดังงา ต้นสนฉัตร ดังนั้นคุณควรปลูกต้นไม้เยอะๆ ถึงจะโชคดี ต้นไม้เหล่านั้นจะช่วยปกป้องคุ้มครองคุณได้ คือ ดอกบัว หมายถึงจิตใจอันสงบ เพราะคนที่เกิดวันพุธมักชอบเป็นนักการทูตและรัก สันติภาพ
ดอกไม้ประจำวัน เกิด คือดอกบัว ซึ่งคนที่เกิดวันพุธมักจะเป็นนักคำนวณ (เงิน) สีเหลืองอร่ามราวกับทองของดอกไม้ชิดนี้ หมายถึงรักของคุณต้องมาพร้อมเงิน
เกิดวันพฤหัสบดี


ต้นไม้ประจำตัวคุณคือ ต้นโสน ต้นราชพฤกษ์ และต้นบานบุรี หากที่บ้านของคุณมีต้นไม้เหล่านี้จะช่วยคุ้มครองดูแล
ดอกไม้ ประจำวันเกิดของคุณคือ ดอกกุหลาบสีเหลือง หมายถึงการเปลี่ยนแปลงในเรื่องความรัก รักซ้อนซ่อนใจ เพราะคนที่เกิดวันนี้เป็นคนรักงายหน่ายเร็ว เจ้าชู้เล็กๆ ดอกไม้อีกชนิดหนึ่งคือดอกคาร์เนชั่นสีชมพู หมายถึงรักของคุณที่อ่อนโยนและอ่อนหวานคนที่เกิดวันนี้ จริงๆ แล้วเป็นคนสุภาพอ่อนโยนและมีอารมณ์ขัน น่ารักเหมือนดอกไม้ของคุณนั่นแหละ
เกิดวันศุกร์


ต้นไม้ที่แสนดีของคนที่วันศุกร์คือ ต้นพยับหมอก ต้นแส ต้นอัญชัน
ส่วน ดอกไม้ของคุณคือ กุหลาบทุกสี เพราะคนที่เกิดวันศุกร์มักเป็นนักรักที่ยิ่งใหญ่มีเสน่ห์ล้นเหลือ หรือจะเป็นดอกไม้เจ้าเสน่ห์ที่มีความหมายหวานแหววแบบดอกไวโอแลตว่า "ฉันรักเธอแล้ว หากรักฉันก็บอกกันบ้างนะ" คนเกิดวันศุกร์บางอารมณ์ก็โลเล จึงได้ดอกลาเวนเดอร์ที่มีความหมายถึงรักที่สับสน ไม่แน่นอน ไปครองอีกดอกหนึ่ง

เกิดวันเสาร์


ต้นไม้ประจำวันเกิด จะเป็นต้นไม้พวกต้นกัลปังหา ต้นพวงคราม ต้นอินทนิล
ดอกไม้ ประจำวันเกิดคือ ดอกลิลลี่ อันหมายถึงรักครั้งแรก รักที่บริสุทธิ์เพราะคนที่เกิดวันเสาร์เป็นคนจริงจังและซีเรียส จึงรักใครยากหน่อย ทว่าดอกลิลี่เป็นดอกที่กระทบใจคนขี้เหงาวันเสาร์ได้ดีทีเดียว

เรื่องดี้ดีที่อยากบอก

10 วิธีการกินอาหารเพื่อสุขภาพที่ดี


          ในแต่ละวันเราจำเป็นต้องรับประทานอาหารมากมาย มีคำแนะนำจากหลายสำนักให้กินนั่น ห้ามกินนี่จนไม่รู้จะเชื่อใครดี วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับง่ายๆ ของการกินให้ได้ประโยชน์สูงสุดต่อสุขภาพอย่างเต็มที่มาฝาก
1. กินอาหารเช้า เป็นพฤติกรรมพื้นฐานที่ส่งผลต่อจิตใจ และพลังชีวิตของคุณไปตลอดทั้งวัน และช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเส้นเลือด ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยเผาผลาญพลังงานให้ดีขึ้น ทำให้คุณกินอาหารในมื้ออื่นๆ น้อยลง

2. เปลี่ยนน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหาร ยอมจ่ายแพงสักนิดใช้น้ำมันมะกอก หรือน้ำมันดอกทานตะวัน ปรุงอาหารแทนน้ำมันแบบเดิมที่เคยใช้ เพราะเป็นไขมันที่ไม่เป็นโทษต่อร่างกาย และมีกรดไขมันอิ่มตัวที่เป็นประโยชน์ ช่วยลดไขมันในเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี
3. ดื่มน้ำให้มากขึ้น คนเราควรดื่มน้ำวันละ 2 ลิตรเป็นอย่างน้อย (ยกเว้นในรายที่ไตทำงานผิดปกติ) เพื่อหล่อเลี้ยงเซลล์ในร่างกาย ฟื้นฟูระบบขับถ่าย รักษาระดับความเข้มข้นของเลือด จะทำให้สดชื่นตลอดวันเลยทีเดียว
4. เสริมสร้างแคลเซียมให้กับกระดูก ด้วยการดื่มนม กินปลาตัวเล็กทั้งตัวทั้งก้าง เต้าหู้ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง ผักใบเขียว เพราะแคลเซียมเป็นสิ่งจำเป็นที่จะเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อและกระดูก ทำให้ระบบประสาททำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
5. บอกลาขนมและของกินจุบจิบ ตัดของโปรดประเภทโดนัท คุกกี้ เค้กหน้าครีมหนานุ่ม ออกจากชีวิตบ้าง แล้วหันมากินผลไม้เป็นของว่างแทน วิตามิน และกากใยในผลไม้ มีประโยชน์กว่าไขมัน และน้ำตาลจากขนมหวานเป็นไหนๆ
6. สร้างความคุ้นเคยกับการกินธัญพืช เช่นข้าวกล้อง เมล็ดทานตะวัน ข้าวฟ่างและลูกเดือย รวมทั้งข้าวกล้องที่เคยคิดว่าเป็นอาหารนก ได้มีการศึกษาและค้นคว้าแล้ว พบว่า ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจถึง 1 ใน 3 เลยทีเดียว เพราะอุดมไปด้วยไฟเบอร์ ที่ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล และควบคุมน้ำตาลในเลือดให้สมดุล
7. จัดน้ำชาให้ตัวเอง ทั้งชาดำ ชาเขียว ชาอู่ล่ง หรือเอิร์ลเกรย์ ล้วนแล้วแต่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระ การดื่มชาวันละ 1 ถึง 3 แก้ว ช่วยลดอัตราเสี่ยงมะเร็งกระเพาะอาหารถึง 30%
8. กินให้ครบทุกสิ่งที่ธรรมชาติ มีคุณต้องพยายามรับประทานผักผลไม้ต่างๆ ให้หลากสี เป็นต้นว่า สีแดงมะเขือเทศ สีม่วงองุ่น สีเขียวบล็อกเคอรี สีส้มแครอท อย่ายึดติดอยู่กับการกินอะไรเพียงอย่างเดียว เพราะพืชต่างสีกัน มีสารอาหารต่างชนิดกัน แถมยังเป็นการเพิ่มสีสันการกินให้กับคุณด้วย
9. เปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนรักปลา การกินปลาอย่างน้อยอาทิตย์ละครั้ง ได้ทั้งความฉลาดและแข็งแรง เพราะปลามีกรดไขมันโอเมก้า 3 และโปรตีน ที่ช่วยควบคุมการเต้นของหัวใจให้เป็นปกติ และบำรุงเซลล์สมอง ทั้งยังมีไขมันน้อย อร่อย ย่อยง่าย เหมาะสำหรับคนที่ต้องการหุ่นเพรียวลมเป็นที่สุด
10. กินถั่วให้เป็นนิสัย ทำให้ถั่วเป็นส่วนหนึ่งของอาหารที่คุณต้องกินทุกวัน วันละสัก 2 ช้อน ไม่ว่าจะเป็นของหวานของคาว หรือว่าของว่างก็ทั้งโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุสำคัญๆ หลายชนิด ต่างพากันไปชุมนุมอยู่ในถั่วเหล่านี้ ควรกินถั่วอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรกินครั้งละมากๆ เพราะมีแคลอรี่สูง อาจทำให้อ้วนได้
   ***ถ้าปฏิบัติให้ได้ครบทุกข้อตามคำแนะนำข้างต้นนี้จนเป็นนิสัย สุขภาพดีๆ จะไปไหนเสีย !!

เผย 5 เคล็ด(ไม่)ลับ เลือกอาหารเพื่อสุขภาพตามช่วงอายุ

เคล็ดไม่ลับ 5 วิธีการเลือกอาหารเพื่อสุขภาพตามช่วงอายุ

          การรู้จักเลือกรับประทานอาหารไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องสุขภาพเท่านั้น หากยังเอื้อต่อความสวยความงามอีกด้วย ความจริงการเลือกอาหารให้เหมาะสมตามช่วงวัยก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สุขภาพดีได้ เพราะในแต่ละช่วงอายุมีความแตกต่างกันในด้านพัฒนาการของร่างกายและลักษณะการดำเนินชีวิต วันนี้จึงขอเสนอเรื่องราวของอาหารที่เกี่ยวข้องกับช่วงอายุทั้ง 4 ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากแต่อย่างใดที่คุณจะลองทำตาม

          วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 2
          ช่วงอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไปเป็นช่วงที่ร่างกายมีการพัฒนาและเติบโตเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเรียน การทำงาน และเป็นวัยที่ใช้ชีวิตอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ยิ่งมีการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันมากเท่าไร ร่างกายก็ยิ่งเผาผลาญและใช้พลังงานมากขึ้นเท่านั้น ดังนั้น ควรเลือกรับประทานอาหารที่เหมาะสม โดยเลือกรับประทานจำพวกเนื้อสัตว์และถั่วต่างๆ รวมถึงข้าวและแป้งมากเป็นอันดับหนึ่ง ตามด้วยผักผลไม้เป็นอันดับสอง ส่วนนมและอาหารทดแทนแคลเซียมต่างๆ เช่น เต้าหู้ ปลาเล็กปลาน้อย นมถั่วเหลืองเสริมแคลเซียม ตามมาเป็นอันดับสาม และให้ความสำคัญของไขมันเป็นอันดับสุดท้าย ปลาเป็นอาหารสมองที่ช่วยรักษาผนังเซลล์ประสาทในสมองให้แข็งแรง ไม่หลงลืมอะไรง่ายๆ ผักสีเขียวอย่างผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักคะน้า ถั่วฝักยาว ช่วยบำรุงสายตา สร้างกระดูกและฟันให้แข็งแรง ผักผลไม้สีเหลืองอย่างกล้วยหอมก็ถือเป็นผลไม้คลายเครียดชนิดหนึ่ง

          วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 3
          อายุขึ้นเลข 3 หลายคนเริ่มตกใจกลัว แต่การรู้จักเลือกรับประทานจะทำให้ผู้อื่นไม่สามารถเดาอายุคุณจากรูปร่างหน้าตาได้เลย ในช่วงเริ่มวัยผู้ใหญ่ความต้องการพลังงานยังคงอยู่ เพราะเป็นช่วงชีวิตของการทำงาน แต่ต้องเพิ่มความระมัดระวังในเรื่องของไขมันและโคเลสเตอรอลที่จะส่งผลกระทบกับรูปร่างหน้าตาภายนอกที่เห็นการเปลี่ยนแปลงได้ชัดเจน นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสุขภาพร่างกายในอนาคตด้วย เพราะการรับประทานอาหารที่มีไขมันหรือโคเลสเตอรอลสูง เช่น หมูสามชั้น เนยแข็ง กะทิ เนยเทียม เป็นต้น จะสร้างปัญหาให้หลอดเลือดและหัวใจ แต่คุณสามารถเลือกรับประทานอาหารที่ช่วยลดไขมันและโคเลสเตอรอล เช่น ปลาทะเล ช่วยลดความดันโลหิต พวกถั่วเมล็ดแห้งอย่างถั่วแดง ถั่วเขียว ถั่วเหลือง ช่วยลดความเสี่ยงจากโรคหัวใจ และมีโปรตีนสูงเพื่อให้พลังงานแทนสัตว์ใหญ่ได้อีก อาหารจำพวกข้าว ธัญพืชไม่ขัดสี อย่างข้าวซ้อมมือ ขนมปังโฮลวีท มีใยอาหารสูง ช่วยให้อิ่มท้องนานและส่งผลดีต่อระบบลำไส้

          วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 4
          วัยทองถูกเรียกแทนวัย 40 ปีขึ้นไป เนื่องจากสภาพร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะผู้หญิง ส่วนผู้ชายวัยนี้ก็จะเริ่มมีโรคต่างๆที่ไม่เคยออกอาการ ซึ่งเรียกกันว่าเป็น วิถีทางธรรมชาติแต่ทั้งนี้การชะลอวัยหรือป้องกันโรคต่างๆที่มากับวัยไม่ได้ยุ่งยากเกินกว่าที่เราจะทำได้ สำหรับช่วงวัยนี้ความต้องการพลังงานจะลดลง แต่ความต้องการแคลเซียมและวิตามินต่างๆเพิ่มขึ้น ซึ่งจะได้รับจากผักผลไม้ที่มีกากใยอาหารสูง แล้วยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอย่างวิตามินซีจากอาหารที่หารับประทานได้ง่าย เช่น ส้ม ฝรั่ง มะเขือเทศ แคนตาลูป ส่วนอาหารที่มีวิตามินอี ได้แก่ น้ำมันพืช เนยถั่ว ถั่วลิสง อัลมอนด์ นอกจากนี้ควรรับประทานเต้าหู้ โปรตีนไขมันต่ำ ซึ่งให้แคลเซียมมากกว่าเนื้อสัตว์อย่างอื่น แต่ไม่ควรลืมหลีกเลี่ยงอาหารที่เป็นตัวเร่งความแก่ให้เร็วขึ้น เช่น อาหารไขมันสูงประเภททอดกรอบหรือผัดน้ำมันมากๆ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มกาเฟอีนทั้งหลาย

          วัยที่ขึ้นต้นด้วยเลข 5
          การก้าวเข้าสู่ช่วงวัย 50 เป็นต้นไปนั้นไม่ได้ส่งผลต่อร่างกายอย่างเดียว แต่ยังส่งผลต่อสภาพจิตใจด้วย เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับวัยนี้คุณควรเข้าใจการทำงานของร่างกายที่มีประสิทธิภาพลดลง โดยเฉพาะระบบการย่อยการดูดซึมอาหาร ทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางอย่าง ช่วงนี้คุณอาจไม่รู้สึกกระหายน้ำเท่าไหร่ แต่ควรดื่มน้ำให้สม่ำเสมอ อย่างน้อยวันละ 8-12 แก้ว เพื่อป้องกันการขาดน้ำโดยไม่รู้ตัว ควรรับประทานคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลงและพยายามเลือกชนิดไม่ขัดสี เน้นอาหารจำพวกปลาเพื่อไม่ให้ขาดโปรตีน ที่สำคัญคือเป็นเนื้อสัตว์ที่ย่อยง่าย

          วัยนี้จะพบปัญหากระดูกเปราะ กระดูกพรุนอย่างชัดเจน ดังนั้น ควรได้รับแคลเซียมอย่างเพียงพอ อาหารแคลเซียมสูงอยู่ในนม โยเกิร์ตชนิดครีม เนยแข็ง หรือแม้แต่ปลาตัวเล็กตัวน้อย พวกผักใบเขียวก็มี เช่น คะน้า กวางตุ้ง และบรอกโคลี จะช่วยลดปัญหาเรื่องกระดูกให้รุนแรงน้อยลง การแก้ไขภาวะขาดน้ำอาจให้ดื่มน้ำสมุนไพร เช่น กระเจี๊ยบ เก๊กฮวย น้ำใบเตย นอกเหนือจากน้ำเปล่า เพราะช่วยบรรเทาโรคบางอย่างและให้ประโยชน์กว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีกาเฟอีน

          สิ่งสำคัญไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงวัยใดควรดูแลเรื่องการกินอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นโรคหรือไม่ก็ตาม เพราะคนส่วนใหญ่มักจะดูแลตัวเองเมื่อพบว่าตัวเองมีโรคหรือมีปัญหาสุขภาพแล้วเท่านั้น นอกจากนี้การเพิ่มกิจกรรมเคลื่อนไหวระหว่างวันให้มาก ทำบ่อยๆจนติดเป็นนิสัย จะช่วยให้สุขภาพดีมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะประโยชน์ด้านระบบการไหลเวียนเลือด ควบคุมน้ำหนักตัว และลดความเครียดของร่างกายได้

วันจันทร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2554

เรียนรู้เว็บ บล็อก (web blog)


รายวิชานวัตกรรมและเทคโนโลยีการศึกษา

อาจารย์คนสวย


อาจารย์ผู้สอน อาจารย์สุจิตตรา  จันทร์ลอย
นางสาว มณฑาทิพย์  แสงอินทร์ เลขที่ 33 หมู่ 1
นักศึกษาหลักสูตร ป.บัณฑิตวิชาชีพครู รุ่นที่ 13
ภาคการศึกษา 2/2553






ยืนสวยอยู่บนเขื่อนป่าสักฯ

 
 

ประวัติส่วนตัว
ชื่อ มณฑาทิพย์   นามสกุล แสงอินทร์
ชื่อเล่น เอ๋ , ตัวเล็ก , มณ
เกิด วันอังคารที่ 10 เดือน พฤษภาคม พ.ศ.2526
หมู่เลือด B
ที่อยู่ปัจจุบัน บ้านเลขที่119/7 ม.1 ต.บ้านคา อ.บ้านคา จ.ราชบุรี 70180
ที่อยู่ตามบัตรประชาชน บ้านเลขที่ 51 ม.2 ต.วังน้ำซับ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี 72140
เบอร์โทรศัพท์บ้าน 0-355-48364
เบอร์โทรศัพท์มือถือ 086-002-6879
อีเมล์ sm13thip@gmail.com  หรือ mon10ta05thip@gmail.com หรือ sm13thip@hotmail.com

ประวัติการศึกษา
ประถมศึกษา โรงเรียนวัดพังม่วง
มัธยมศึกษาตอนต้น โรงเรียนสงวนหญิง
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ วิทยาลัยอาชีวศึกษาสุพรรณบุรี แผนกการขาย
ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง สถาบันเทคโนโลยีราชมงคล วิทยาเขตสุพรรณบุรี (ปัจจุบัน คือมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ วิทยาเขตสุพรรณบุรี) สาขาการตลาด
ปริญญาบัตรมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี(อดิต คือศูนย์กลางสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล) คณะบริหารธุรกิจ(การตลาด)

ประวัติการฝึกอบรม

กลุ่ม SME ของเราเก่งกันทุกคน
การขาย MLM
การประกอบธุรกิจ SME
ช่างออกแบบแม่พิมพ์โลหะ

ประวัติการทำงาน
เจ้าหน้าที่CAD CAM (ขึ้นรูปชิ้นงานจาก 2 มิติ เป็น 3มิติ พร้อมทั้งสร้างโปรแกรมกัดโลหะ) ประมาณ 4 เดือน
ค้าขายอุปกรณเครื่องเขียน และเครื่องประดับ ประมาณ 1 ปี
นักศึกษาฝึกสอน โรงเรียนบ้นคาวิทยา รายวิชาวิทยาศาสตร์ ชั้น ม.1 จำนวน 5 ห้องเรียน (ปัจจุบัน)

งานอดิเรก
ปลูกต้นไม้ ประเภทไม้ดอกไม้ประดับ อ่านหนังสือนิยาย นวนิยาย เรื่องสั้น และนิตยสารบันเทิง ดูTV , CD , VCD เกี่ยวกับวัยรุ่น หรือแนวสืบสวน,เที่ยวตามสถานที่ธรรมชาติ

อยู่ในทุ่งทานตะวันกับน้องสาวคนสวย

คติประจำใจ
ทำทุก ๆ วันให้ดีที่สุด เพื่อจะได้มีอนาคตที่ดี มีอดิตที่น่าจดจำ



สไลด์โชว